ค้านประกัน ด.ต.ปืนโหดบุกกระหน่ำยิงอดีตภรรยาสาหัส เพื่อนดับอีก 2 แม่ผู้ตายร่ำไห้ไม่ได้ฆ่าแค่ 2 คน แต่เหมือนพรากอีกหลายชีวิต
ความคืบหน้ากรณีที่ ด.ต.อร่าม อายุ 44 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. บุกเข้าไปกระหน่ำยิง น.ส.นุจรินทร์ อายุ 42 ปีพนักงานโรงงานผลิต ถุงใส่ของขวัญ ถุงกระดาษใส่ของขวัญ อดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ รพ.โนนสุวรรณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิง นายจรัญ และนางสมคิด สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเพื่อนของอดีตภรรยาเสียชีวิต ขณะนั่งอยู่ภายในร้านอาหารตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ย.) ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ผู้บาดเจ็บและผู้ตายได้ร่วมหุ้นกันเปิด สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับลูกค้าที่นั่งดื่มกินในร้าน และประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนที่ ด.ต.อร่าม จะเข้ามอบตัวพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าชนวนเหตุ เกิดจาก ด.ต.อร่าม ระแวงอดีตภรรยาแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายจรัญ ผู้ตาย จึงตัดสินใจบุกเข้าไปกระหน่ำยิงทั้ง 3 ขณะนั่งอยู่ในร้านอาหารดังกล่าว
ล่าสุด วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สมคิด ชุ่มเสนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสุวรรณ ได้นำตัว ด.ต.อร่าม ออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ด.ต.อร่าม อยู่ในอาการเครียดหนักจนต้องให้กินยาคลายเครียดเพราะเกรงว่าจะฆ่าตัวตาย ซึ่งระหว่างการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพด้านใน มีเพียงทนายความที่ร่วมฟังการสอบสวนเท่านั้น
เบื้องต้น ก็ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ส่วนข้อหาอื่นต้องรอการสอบสวนและพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วน น.ส.นุจรินทร์ อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อาการยังน่าเป็นห่วง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายจรัญและนางสมคิด สองสามีภรรยาที่เสียชีวิต ตั้งอยู่บ้านน้อยอุบล ต.โนนสุวรรณ พบว่าญาติพี่น้องและชาวบ้านได้ช่วยกันกางเต็นท์จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพของซึ่งกำลังทำการชันสูตรอยู่ที่โรงพยาบาลโนนสุวรรณ
ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ นางไพฑูรย์ อายุ 63 ปี แม่ของนายจรัญ ที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียทั้งลูกชายและลูกสะใภ้พร้อมกัน
นางไพฑูรย์ กล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ฆ่าแค่ 2 คน แต่พรากอีกหลายชีวิต เพราะผู้ตายทั้งสองเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลหลายชีวิต โดยเฉพาะหลานชาย 2 คนซึ่งกำลังเรียน ก็ต้องกลายเป็นกำพร้าทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน และไม่รู้ว่าหลังจากนี้ใครจะส่งเสียและจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง เป็นห่วงความรู้สึกหลานมาก
ส่วนตัวไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรถึงได้ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ก็อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากเป็นไปได้ก็อยากให้ตายตกไปตามกัน แต่ก็เห็นใจเพราะอีกฝ่ายก็มีลูกเหมือนกัน
ด้าน น.ส.ชาลี อายุ 46 ปี พี่สาวนายจรัญ ผู้ตาย เล่าว่า ตนก็ทำมาค้าขายอยู่ต่างจังหวัดนานๆ จะได้กลับมาเยี่ยมบ้าน จึงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้มาฆ่ากันแบบโหดเหี้ยมขนาดนี้ แต่รู้ว่าน้องชายน้องสะใภ้หุ้นกับ น.ส.นุจรินทร์ ผู้บาดเจ็บเปิดร้านอาหารร่วมกันได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นน้องชายเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง จึงไม่แน่ใจว่าจะขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ร้านอาหารหรือไม่
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาระแวงว่าอดีตภรรยาตัวเองจะแอบมามีสัมพันธ์กับน้องชายหรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ก็อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย เพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม