โคราชตำรวจเมืองย่าโม 21 วันตะคลุบรวบแก็งจ้างวานฆ่านักกฎหมาย(ทนายความ)คาสำนักงาน เผยปมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดฟ้องร้องคดีกันเอง ฝ่ายผู้ก่อเหตุแพ้คดีเสียเงินไปกว่า 3 ล้านบาท

นครราชสีมา วันนี้( 13 ต.ค. 2565 ) จากกรณีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วทัญญู รุ่งรัศมี ผกก.สภ.สูงเนินฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุบุคคลถูกทำร้ายเสียชีวิตอยู่ภายในอาคารพาณิชย์ ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ และเปิดเป็นสำนักงานทนายความ พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายธรรมธร วงศ์คุณาธร อายุ 48 ปี อาชีพทนายความ สภาพศพลักษณะขึ้นอืด มีบาดแผลถูกแทงจากของมีคมหลายจุด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งตรวจชันสูตรที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้สืบสวนจนทราบว่า ทนายความผู้ตายรายดังกล่าว ถูกเพื่อนชื่อ บอย เป็นผู้จ้างวานฆ่า โดยได้ว่างจ้างพรรคพวกอีก 4 คน ในการลงมือฆ่าทนายความผู้เสียชีวิต

วันนี้ (13 ตุลาคม 2565) ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลตำรวจตรี สายเพชร ศรีสังข์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพลตำรวจตรี อิทธิพล นาคคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรตังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมแถลงจับกุมกลุ่มคนร้ายจ้างวานฆ่าทนายความรายดังกล่าว โดยจับกุมตัว นายรังสิมันตุ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เจ้าของโรงงานผลิตถุงซักผ้า ถุงตาข่ายซักผ้า ผู้จ้างวาน พร้อมกับพรรคพวกอีก 4 คน ที่แยกกันทำหน้าที่ ประกอบด้วย หัวหน้าทีมที่ทำหน้าที่คนขับรถ คนดูต้นทาง และผู้ลงมือสังหารอีก 2 คน

โดยผู้จ้างวานได้ว่าจ้างทีมสังหารทั้ง 4 คน เป็นเงินว่างจ้าง จำนวน 100,000 บาท ซึ่งกลุ่มทีมสังหารได้ลงมือก่อเหตุ วันที่ 16 กันยายน 2565 และหลังก่อเหตุทีมสังหารทั้ง 4 คนได้แยกย้ายกันหลบหนีไปกบดานตามจังหวัดต่างๆ ต่อมาชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยจนกระทั่งตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด โดยได้จับกุมคนร้ายที่เป็นผู้ลงมือสังหารได้เป็นรายแรก คือ นายณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และนายบิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ก่อนขยายผลจับกุม นายบุญสิทธิ์ ศรีดำ หรือ มาส อายุ 43 ปี หัวหน้าทีมสังหาร นายอรรฆพร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี คนดูต้นทาง และนายรังสิมันตุ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เป็นผู้จ้างวาน

โดยสาเหตุของการจ้างวานฆ่าทนายความในครั้งนี้ เกิดจากการฟ้องร้องคดีกันของทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายผู้จ้างวานฆ่าเป็นฝ่ายแพ้คดีที่ทนายผู้เสียชีวิตเป็นผู้ว่าความ ทำให้ฝ่ายผู้จ้างวานต้องเสียเงินไปกว่า 3 ล้านบาท และนอกจากนี้ยังมีคดีที่มีการฟ้องร้องกันของทั้งสองฝ่ายอีกหลายคดี

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาเกือบทุกรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา มีเพียง นายรังสิมันตุ์(สงวนนามสกุล) ผู้จ้างวานฆ่าเท่านั้นที่ยังคงให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ก็มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงหนักแน่น และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาได้หมดทุกราย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทีมสังหารร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ ส่วนตัวนายรังสิมันตุ์ ถูกแจ้งข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

นายสุนทร เม็งไธสง พ่อของนายธรรมธรผู้ตาย เปิดเผยว่า นายรังสิมันต์ ผู้จ้างวานเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชาย แต่มีพฤติการณ์ไม่ซื่อสัตย์ เคยถูกฟ้องร้องคดีฉ้อโกง ก่อนเกิดเหตุนายบอยผู้จ้างวานมีปัญหากับหุ้นส่วน กรณีซื้อขายบ้าน และที่ดินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท นายบอยจึงได้ว่าจ้างให้ผู้ตายให้เป็นทนาย แต่เกิดมีปัญหาทะเลาะกัน ผู้ตายจึงเปลี่ยนไปว่าความให้กับคู่กรณีฝ่ายตรงข้าม ทำให้นายบอย แพ้คดี และต้องชดใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่ผู้ตายจะถูกฆ่าได้เคยบอกกับตนว่ามีคนคิดปองร้าย ตนก็ได้พูดปลอบใจไปว่า คงไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก แต่ก็มาเกิดเหตุผู้ตายถูกจ้างวานฆ่าดังกล่าว