ที่แท้ศิษย์เก่าแก๊งคอล ขอดเกล็ด ‘แก๊งเจียงซี’ ลวงเจ้าสัวขายทองเก๊ ได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ดัง

ตร.ขอดเกล็ด ‘แก๊งเจียงซี’ รวบ 6 ศิษย์เก่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ลวงเจ้าสัวขายทองเก๊ นำทองจริงฝังไว้กลางทองปลอม อ้างได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ดัง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล ทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” รวบตัวมิจฉาชีพชาวจีน 6 ราย ตรวจยึดของกลาง “ทองเก๊” ได้เกือบ200 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม หลังตระเวนเดินสายหลอกขายคนไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราช มีผู้เสียหายหลายรายรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

โดยแผนประทุษกรรมสุดแสบของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ว่า จะใช้วิธีการหาเหยื่อจากลายแทง “สมุดรายชื่อคนไทยเชื้อสายจีน” คัดรายชื่อเฉพาะบุคคลที่มีฐานะดีที่อยู่ในประเทศไทย จากนั้นใช้วิธีโทรติดต่อเหยื่อแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอาชีพเก่าของคนร้าย เมื่อคนร้ายเลือกเหยื่อได้แล้ว ก็จะใช้การต้มตุ๋นที่วางแผนมาอย่างแยบยลด้วยการ “นำทองจริงฝังไว้กลางทองปลอม แล้วผ่าให้ตรวจพิสูจน์ว่าเป็นทองจริง” โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานการขุดทองมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. ควบคุมการสืบสวนโดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพชาวจีน เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทย และให้กวาดล้างอย่างเด็ดขาด

ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ พ.ต.อ.สามารถ พันธุ์ล้วน พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.2 บก.สส.บช.น.

พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.ฯ ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. จับกุมนายจง เสี่ยวฉง อายุ 44 ปี ชาวจีน นายหลี่ เสี่ยวหยวน อายุ 45 ปี ชาวจีน นายเจิ้ง หนานจิง อายุ 54 ปี ชาวจีน นายหยาง ซุยหยวน อายุ 51 ปี ชาวจีน นายจู จื้อฮวา อายุ 48 ปี ชาวจีน นายกั๋ว เซียนหยู อายุ 49 ปี ชาวจีน

พร้อมของกลางทองคำปลอม ลักษณะเป็นก้อน จำนวน 179 ชิ้น ทองคำปลอมลักษณะเป็นรูปปั้นเทวรูป จำนวน 10 ชิ้น ทองคำแท้ ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2×1 ซม. จำนวน 8 ชิ้น สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม บัตร ATM จำนวน 24 ใบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง อุปกรณ์เลื่อยตัดทอง จำนวน 1 ชุด ข้อหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร” จับกุมตัวได้ที่ หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา

พฤติการณ์กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนขาย กล่องไปรษณีย์ กล่องพัสดุ ออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวจีน สัญชาติไทย รายหนึ่งซึ่งถูกกลุ่มมิจฉาชีพซึ่งเป็นชาวจีน “ต้มตุ๋น” หลอกขายทองคำ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพทำทีว่ามีทองคำแท้จำนวนมาก ขุดเจอที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำมาขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูก ซึ่งผู้เสียหายรายนี้หลงเชื่อ และเสียเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพรายนี้ไปกว่า 500,000 บาท

ซึ่งหลังจากให้เงินแล้วกลุ่มมิจฉาชีพก็หายเข้ากลีบเมฆ ไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ตระเวน “เปิดแฟ้มคดี” ที่กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้เคยตระเวนหลอกลวงเหล่าผู้เสียหาย พบว่าลักษณะการก่อเหตุมีความแยบยลอย่างมืออาชีพ มีลักษณะการทำงานเรียกได้ว่าเป็นระดับ “องค์กร”

เริ่มต้นจากกลุ่มคนร้ายจะหาลายแทงของเหยื่อโดยการ “กางโพย” ซึ่งคือสมุดรายชื่อตระกูลคนจีนในประเทศไทย ตั้งแต่เจ้าสัวตระกูลดัง จากนั้นจะไล่สืบประวัติและติดตามบุคคลเหล่านั้นกระทั่งได้ข้อมูลเบื้องต้น

จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต้มตุ๋นด้วยการโทรศัพท์ไปพูดคุย โดยอ้างข้อมูลต่างๆที่ได้จากการไล่สืบประวัติมาจึงทำให้เหยื่อ “ติดกับดัก” หลงเชื่อใจกลุ่มมิจฉาชีพ และต่อมาก็จะเข้าสู่กระบวนการ “นัดพบ” ซึ่งเมื่อสามารถนัดพบกับเหยื่อได้แล้วจะใช้จิตวิทยาด้วย “การแสดง”

โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะนำทองคำ (ปลอม) ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนจำนวนมาก มาโชว์ให้เหยื่อดูและแสร้งนำเลื่อยมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก เพื่อนำให้เหยื่อเอาไปตรวจสอบ ซึ่งแท้จริงมีเพียงชิ้นเล็กเท่านั้นที่เป็นทองแท้ ซึ่งเมื่อเหยื่อนำทองชิ้นเล็กเหล่านั้นไปตรวจสอบกับร้านทอง ก็จะพบว่าเป็นทองคำแท้ ทำให้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพอย่างสนิทใจ ซึ่งเมื่อเหยื่อยอมนำเงินมอบให้กับกลุ่มมิจฉาชีพแล้วก็จะหายเข้ากลีบเมฆทันที

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนด้วยวิธีการดักหน้า โดยพบกับเหยื่ออีกรายหนึ่ง ซึ่งกำลังจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวง นำกำลังเข้าไปวางแผนและเปิดปฏิบัติการซ้อนแผนขอดเกล็ด โดยจัดฉากทำทีให้เหยื่อหลงเชื่อและนัดพบกับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ซึ่งต่อมาวันที่ 24 เม.ย.66 เวลาประมาณ 14.30 น. กลุ่มมิจฉาชีพ 2 คน ปรากฏตัว ณ จุดนัดพบ บริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวคนร้ายทั้ง 2 ราย คือนายจง เสี่ยวฉง และนายหลี่ เสี่ยวหยวน จากการตรวจค้นพบ ทองคำปลอม ลักษณะเป็นก้อน จำนวน 17 ชิ้น ใบเลื่อย 1 ใบ ซึ่งจากการซักถามและตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวน 4 ราย ซึ่งอยู่ ณ เซฟลับซึ่งเป็นห้องพักที่โรงแรมหรูย่านรัชดากว่า 4 ห้อง

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น โดยจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการได้อีก 4 ราย คือ นายหยาง ซุยหยวน, นายจู จื้อฮวา, นายกั๋ว เซียนหยู จากการตรวจค้นห้องพักทั้ง 4 ห้องพบ ทองคำปลอมอีกกว่า 172 ชิ้น, ทองคำ (แท้) ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2×1 ซม. จำนวน 8 ชิ้น, สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม, บัตร ATM จำนวน 24 ใบ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง และอุปกรณ์เลื่อยตัดทอง จำนวน 1 ชุด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย โดยแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร”

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 รายให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา แต่ให้การว่า กลุ่มตนนั้นมาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน เคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศอินโดนิเซีย ก่อนที่จะมาตระเวนหลอกลวงในประเทศไทย โดยยอมรับอีกว่าการสั่งซื้อทองปลอมนั้นนำเข้ามาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน โดยสั่งมาทางพัสดุเข้ามาในประเทศไทย

โดยยอมรับว่ากลุ่มของตนชื่นชอบการต้มตุ๋น ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ดังในต่างประเทศ ส่วนเรื่องทางคดีนั้นขอต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ส.รฟ.นพวงศ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “คนร้ายกลุ่มนี้ถือเป็นแก๊งต้มตุ๋นมืออาชีพ ซึ่งมีแรงบันดาลใจที่จะเป็นนักต้มตุ๋นเป็นทุนเดิม และยังมีพื้นฐานการหลอกลวงมาจากประสบการณ์ที่เคยทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้กรรมวิธีในการหลอกลวงนั้นแยบยล และยังวางแผนที่จะหลอกลวงอย่างเป็นระบบ ถือเป็นภัยสังคมที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

ซึ่งจากการขยายผลเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่ยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเราจะมีขยายผลจนถึงที่สุด และขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่มีชื่ออยู่ในสมาคมคนจีนในประเทศไทย ให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพประเภทนี้ ซึ่งจากข้อมูลทางการสืบสวนมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักให้เหยื่อผู้เสียหายเดินทางไปพบเพียงคนเดียว หากเหยื่อรายใดไหวตัวทันก่อนอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ และขอฝากถึงห้างร้านทองต่างๆ

กรณีที่มีคนนำแผ่นเศษทองมาให้ทางร้านตรวจสอบนั้น ผู้ที่นำมาตรวจสอบอาจเป็นผู้เสียหายที่กำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ฉะนั้นแล้วหากพบให้รีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ หรือสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟซบุ๊กเพจ สืบนครบาล IDMB

เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

scpaperpacknews

Learn More →