เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 10 พ.ย.65 ร.ต.ท.ประพาส วิ-ประจง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองชุมพร ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้อาวุธปืน ที่ซอยตันตรงข้ามสมาคมฮากก้า ถนนกรมหลวง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม จ.ส.ต.อนุพงศ์ ขาวมรดก และ ส.ต.อ.สุภชัย พรพระสงค์ สายตรวจ 191
ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวปลูกติดกัน 35 ห้อง โดยห้องเกิดเหตุอยู่เลขที่ 87/26 เจ้าหน้าที่พบแต่เพียงกองเลือดอยู่ภายในห้อง และปลอกกระสุนลูกซอง ตกอยู่ที่พื้นหน้าห้อง จำนวน 1 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บ ได้ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์แล้ว ทราบชื่อคือนายสมชาย เป็นชาว สปป.ลาว ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายบุญเติม (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พนักงานโรงงานกล่องไก่ขน กล่องใส่ไก่ชนอยู่ห้องเช่าแถวเดียวกัน ซึ่งหลังก่อเหตุ ได้กลับไปหลบอยู่ที่ห้อง เจ้าหน้าที่จึงไปเคาะประตูเรียก ก่อนผู้ก่อเหตุได้เปิดประตู และไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวได้โดยละม่อม พร้อมนำไปเอาอาวุธปืนลูกซองสั้น จำนวน 1 กระบอก ภายในรังเพลิงบรรจุกระสุนพร้อมใช้อีก 1 นัด ซึ่งนำไปเก็บแอบไว้ในที่ชั้นเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานและนำตัวมาสอบปากคำที่ห้องปฏิบัติงานด้านสืบสวน สภ.เมืองชุมพร และได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วและเขม่าดินปืน
จากการสอบสวน นายบุญเติม (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนมี พื้นเพอยู่ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย และได้มาอาศัยทำมาหากินโดยขายลอตเตอรี่ อยู่ที่ จ.ชุมพร มาหลายปีแล้ว และมาเช่าห้องแถวดังกล่าว โดยมีเพื่อนๆส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน จาก จ.เลย กว่า 30 คน ซึ่งยึดอาชีพขายลอตเตอรี่เช่นเดียวกันตน มาเช่ากันอยู่ทั้งอยู่แบบครอบครัวและเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งตนเองได้เช่าอยู่กับแฟน ซึ่งเป็นคนใหม่ ที่เพิ่งได้กันไม่นาน ส่วนแฟนเก่า คือนางสาวอุบลรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ซึ่งเลิกรากันไปกว่า 6 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชาย อายุ 15 ปี ได้มาขายลอตเตอรี่ด้วยที่ จ.ชุมพร และอีกคนเป็นหญิงกำลังเรียนอยู่ ป.4 รร.แห่งหนึ่ง ที่ จ.เลย
นายบุญเติม ให้การต่อว่า นางสาวอุบลรัตน์ อดีตภรรยา ก็ได้มาขายลอตเตอรี่เช่นกัน โดยเช่าห้องอยู่กับสามีใหม่ ห้องเช่าห่างจากห้องตนเองไป และสามีใหม่ของอดีตภรรยา เพิ่งมาขายได้เพียง 2-3 งวด โดยวันเกิดเหตุ ตนเองเพิ่งกลับมาจากไปเร่ขายลอตเตอรี่ ตามสถานที่ต่างๆ จนเย็น จึงเดินทางกลับมาที่ห้องพัก และได้นั่งดื่มเหล้าอยู่กับแฟนภายในห้อง ก่อนจะลุกขึ้นไปเอาอาวุธปืน ซึ่งซื้อมาจากเพื่อนมาได้ประมาณ 1 ปี ออกมาจากชั้นเก็บเสื้อผ้า เพื่อจะเอาไปเก็บไว้ที่รถยนต์
นายบุญเติม ยังให้การต่ออีก โดยอ้างว่า ขณะที่เดินถืออาวุธปืนมา และได้ผ่านห้องของอดีตภรรยาตนจึงได้แวะ ซักถาม แต่บังเอิญปืนในมือ นิ้วเกิดไปเหนี่ยวไก จึงทำให้ปืนเกิดลั่น และกระสุนพุ่งไปโดนเข้าที่บริเวณหว่างขาของนายสมชาย ด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ตนเองเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้องแล้วนำปืนไว้เก็บซ่อนไว้ที่ชั้นเสื้อผ้าเช่นเดิม และปิดประตูห้อง จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะประตู ซึ่งตนเองได้เปิดและยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเป็นตนและยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายสมชาย จริง แต่ไม่ได้ตั้งใจ
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาแก่ นายบุญเติมฯ ว่า “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ได้พบ นางสาวอุบลรัตน์ อดีตภรรยานายบุญเติม ผู้ก่อเหตุ ยืนร่ำไห้อยู่หน้าห้องเช่า โดยมีบรรดาเพื่อนๆร่วมอาชีพขายลอตเตอรี่ ต่างจับกลุ่มพูดคุยให้กำลังใจ
จากการสอบถาม นางสาวอุบลรัตน์ ได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ตนได้แยกทางกับนายบุญเติม กว่า 7 ปี ตนก็ได้สามีใหม่คือนายสมชาย และเราทั้งสองได้มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นหญิง อายุ 6 ปี โดยลูกได้ให้ญาติเลี้ยงอยู่ที่ จ.เลย และตนกับสามี ได้มาขายลอตเตอรี่อยู่ที่ จ.ชุมพร และเช่าห้องอยู่ใกล้กับ นายบุญเติม อดีตสามี โดยที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงระยะหลัง หลังจากที่นายบุญเติม มีภรรยาใหม่ ซึ่งก็ได้กันและอยู่ด้วยกันไม่นาน อดีตสามี มักจะระแวงและหึงห่วงไปหมด ยิ่งนายสมชาย สามีตนเอง ก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน ยิ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก
นางอุบลรัตน์ เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามี เพิ่งกลับจากไปขายลอตเตอรี่ด้วยกันที่ปากน้ำชุมพร และเมื่อกลับมาถึงหลัง นายสมชาย สามี ได้เปิดประตูห้องเข้าไปก่อน ส่วนตนเองยังสารวนเก็บของอยู่หน้าห้อง และไม่นาน ก็ได้ยินเสียงนายบุญเติม ถามตนว่า มันอยู่ไหน ซึ่งตนได้เงยหน้าแต่ยังไม่พูดอะไร ก็เห็นนายบุญเติม เดินเข้าไปที่ตรงประตูห้อง และก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น 1 นัด พร้อมเสียงร้องของนายสมชาย ดังลั่นออกมา จึงรู้แล้วว่านายบุญเติม ยิงสามีแล้ว หลังตั้งสติได้ จึงวิ่งเข้าไปพร้อมปิดห้อง เพราะเกรงและเชื่อว่า นายบุญเติม ต้องยิงตนเองด้วยแน่ จนกระทั่งเพื่อนๆมาเคาะประตู แล้วได้ตัวนายสมชาย ที่บริเวณหว่างขาที่โชกไปด้วยเลือด ขึ้นรถยนต์พาส่ง รพ.ชุมพรฯ และแพทย์ได้แจ้งว่ากระสุนเข้าบริเวณพวงสวรรค์ของนายสมชาย จนเละไม่สามารถให้การได้แล้ว ทำให้ตนตกใจอย่างมาก แต่ขอให้นายสมชาย มีชีวิตก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นจึงไม่สำคัญกับคำว่าครอบครัว