ที่สวนองุ่นยูริ ริมถนนบ้านอาโพน ตรงข้ามโรงงานผลิต ถุงคุกกี้ฝากาว ถุงสบู่หมู่ที่ 6 ต.แสลงพันธ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ อยู่ห่างจากถนนปัทมานนท์ สายสุรินทร์-จอมพระ ราว 1 กิโลเมตร เป็นสวนองุ่นแรกของอำเภอ โดยปลูกในโรงเรือนระบบปิด มีต้นองุ่นอยู่ 80 ต้น ซึ่งเป็นเป็นผลผลิตแรกที่มีมาออกจำหน่าย
โดยบรรดาผู้คนที่ชอบในลูกองุ่นต่างเดินทางเข้ามาชิมและซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝากกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพากันถ่ายรูปเซลฟี่โชว์กันในโลกโซเชียลอีกด้วย ซึ่งมีผลผลิตทั้งสิ้นราว 1,000 กิโลกรัม สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่ชื่นชอบ จนลูกองุ่นสุกไม่ทันเก็บจำหน่าย
ทราบชื่อเจ้าของสวน คือ นายกวิน ลุงพิทักษ์ อายุ 46 ปี อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ได้ลาออกจากงานประจำผันตัวมาทำสวนองุ่นในพื้นที่จำนวน 2 ไร่ และลงคอร์สเรียนพิเศษทางออนไลน์ ลองผิด ลองถูก มาหลายครั้งจนประสบความสำเร็จ ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ
นายกวิน ลุงพิทักษ์ อายุ 46 ปี ชาวบ้านอาโพน ต.แสลงพันธ์ (เจ้าของสวน) กล่าวว่า ตนเรียนจบ ปวส.สาขาการบัญชี ทำงานเป็นพนักงานบริษัทมาราว 20 ปี เกิดอาการเบื่อหน่ายในอาชีพ จึงได้ลาออกมาทำการค้าขาย แต่ด้วยโรคโควิดเข้าระบาดขายของไม่ได้ ทำเศรษฐกิจตกต่ำ
ตนคิดว่าลูกๆ ตนเป็นคนชอบกินองุ่นอยู่แล้ว ตนจึงได้ปลูกไว้ในสวนแล้วต้นองุ่นไม่ตาย ตนจึงเกิดแนวคิดว่า องุ่นเป็นผลไม้ที่เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี เป็นผลไม้ที่ไม่มีทางตัน จึงได้ลงทุนลงแรงถมดินให้สูงขึ้น แล้วสร้างเป็นโรงเรือน จำนวน 3 หลัง
โดยใช้งบลงทุนไป 1 ล้านกว่าบาท ตนจึงเข้าไปหาความรู้การปลูกองุ่นจากอินเตอร์เน็ต และได้พบกับคอร์สเรียนออนไลน์ของอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นการสอนแบบถ่ายทอดสดผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ตนจึงได้ลงเรียนไป 2 คอร์ส แล้วมาปฏิบัติเอง แรกๆ ผลผลิตได้ไม่เท่าที่ควร ล้มลุกคลุกคลานมาเกือบ 3 ปี โดยมีอาจารย์ที่สอนออนไลน์คอยชี้แนะแนวทางให้จนสำเร็จ
โดยผลผลิตที่ได้มาในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ มีต้นองุ่นทั้งหมด 80 ต้น ให้ผลผลิตราว 1,000 กิโลกรัมเศษ จำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 250 บาท ให้ลูกค้าเข้ามาตัดเอาเอง หากรวมแล้ว 1 ล็อต จะขายได้ราว 2.5 แสนบาท ซึ่งใน 1 ปี จะสามารถเก็บผลผลิตได้ 2 ล็อต รวมรายได้กว่าปีละ 5 แสนบาทโดยประมาณ
ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าสั่งซื้อต้นพันธุ์องุ่นจากตน โดยที่ตนจะนำเอาต้นตอป่า หรือต้นองุ่นพื้นเมืองแต่กินไม่ได้ โดยเอาต้นองุ่นพันธุ์ดีมาเสียบยอด เพราะว่าต้นตอป่ามีความแข็งแรง หากินเก่ง ทนต่อโรค ซึ่งที่อื่นก็น่าจะทำคล้ายกันหมด
โดยจะขายราคาตามสายพันธุ์ มีตั้งแต่ราคา 250 , 300 , และ 400 บาท โดยที่ตนจะชำให้ต้นออกรากออกกิ่งก่อนจึงจะขายให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าสามารถนำไปลงดินปลูกได้เลย ซึ่งขณะนี้มียอดสั่งจองแล้วกว่า 40 ต้น ก็จะสามารถเป็นรายได้อีก 1 ช่องทางที่สามารถหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกด้วย
ทางด้าน นางสาวนุชนาฏ ขันซ้าย อายุ 23 ปี เป็นชาวตำบลในเมืองสุรินทร์ ได้กล่าวว่า ตนทราบข่าวทางเฟซบุ๊กว่ามีสวนองุ่นอยู่ใกล้ๆ โดยส่วนตัวแล้วตนเป็นคนชอบกินองุ่น ซึ่งตนเดินทางมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ครั้งก่อนที่ตนมาเก็บลูกองุ่นสุกไม่ทัน จึงเก็บไปได้น้อย เมื่อเทียบจากองุ่นในห้าง ที่นี่จะกรอบและสดกว่า ซึ่งวันนี้ตนมาเก็บเอาเต็มตะกร้า เพื่อนำไปรับประทาน และแจกเพื่อนๆ ด้วย
สำหรับสวนองุ่นยูริเปิดให้ลูกค้าแวะเวียนเข้ามาจับจองและจำหน่ายในราคา กิโลกรัมละ 250 บาท โดยลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกชิมและตัดเอาเองตามความพอใจ โดยบางรายแวะเข้ามาเลือกองุ่นพวงที่ชอบหากยังไม่สุก ก็จะเขียนชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์เพื่อจับจองเป็นเจ้าของไว้ หากลูกองุ่นสุกได้ที่ ทางสวนเองจะโทรไปแจ้ง โดยลูกค้ามีทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ รวมถึงลูกค้าที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยสวนองุ่นยูริจะเปิดให้บริการสัปดาห์ละ 3 วัน มีวันพุธ,เสาร์ และวันอาทิตย์